วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555

รายงานสภาวะตลาดสำนักงานในกรุงเทพฯในไตรมาสที่ 4 ของปี 2553

ปี 2553 นับเป็นปีที่ตลาดสำนักงานทั่วกรุงเทพฯซบเซาที่สุดเนื่องจาก ธุรกิจต่างๆ มัวแต่วุ่นวายอยู่กับปัญหาความไม่สงบทางการเมือง และโอกาสการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยซ้ำซ้อนในประเทศปลายทางการส่งออก รายงานตลาดสำนักงานในกรุงเทพประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2553 ของบริษัทคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย (Colliers International Thailand) ฉบับล่าสุด มีข่าวดีประการเดียว กล่าวคือ อุปทานใหม่ที่จะออกสู่ตลาดในช่วงสองสามปีข้างหน้ามีจำกัดซึ่งน่าจะทำให้อัตราการเช่าพื้นที่สูงขึ้น นายแอนโทนี พิคอน รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยชี้ประเด็นที่จะเกิดขึ้นกับตลาดสำนักงานว่า อุปทานอนาคตที่มีจำกัดเปิดโอกาสให้ตลาดลดอัตราการว่างลงในช่วงสองสามปีข้างหน้า นายแอนโทนีรู้สึกว่าตลาดควรใช้ประโยชน์จากโอกาสเติบโตของภาคการบริการในอนาคตโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการเปิดเสรีอาเซียนในปี 2558 ประเทศไทยควรแข่งขันให้มากขึ้น โดยพัฒนาด้านการศึกษาไปพร้อมๆ กับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ประเทศอื่นๆ อย่างฟิลิปปินส์และเวียดนาม กำลังรุดหน้าในตลาดธุรกิจรับจ้างบริหารระบบธุรกิจ ประเทศไทยก็ไม่ควรล้าหลัง เขาให้ความเห็น นายปฏิมา จีระแพทย์ กรรมการผู้จัดบริษัทคอลลิเออร์สฯ เน้นย้ำถึงข่าวดีโดยรวมถึงสิทธิประโยชน์จากการเป็นสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค และมีความสนใจมากขึ้นจากประเทศจีนในการที่จะใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ประเทศไทยตั้งอยู่บริเวณจุดศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอาจได้ประโยชน์ไม่น้อยจากความเปลี่ยนแปลงมหาศาลซึ่งกำลังเป็นรูปเป็นร่างขึ้นในภูมิภาค อันจะเป็นประโยชน์มหาศาลต่อตลาดสำนักงาน นายปฏิมายังเชื่อมั่นว่าสาทรสแควร์ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานที่ใหญ่ที่สุดในย่านธุรกิจใจกลางเมืองนับตั้งแต่เอ็มไพร์ ทาวเวอร์เป็นต้นมา จะไปได้ดี ถึงเวลาแล้วที่จะได้เห็นการสร้างตึกสำนักงานทันสมัยใหม่ๆ ในกรุงเทพฯซึ่งสะท้อนถึงทัศนคติในแง่บวกและความกระตือรือร้นต่ออนาคตของเรา เขาเสริม อัตราการเช่าพื้นที่โดยรวมยังคงที่ตลอดปี โดยอัตราการว่างในแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน ชานเมืองด้านทิศเหนือลดลงจาก 86% เหลือเกือบๆ 84% ส่วนพื้นที่รอบนอกของย่านธุรกิจใจกลางเมืองเพิ่มขึ้นในสัดส่วนพอๆ  See More..

บทความที่ได้รับความนิยม